การสร้างสารที่เร้าใจ
สารที่เร้าใจ คือ สารที่มีน้ำหนักในการจูงใจให้ผู้รับสารเชื่อ
คุณลักษณะของสารที่เร้าใจ
- สารมาจากคนที่เราเชื่อถือ
- ตัวสารมีเหตุมีผล
- มีการสร้างอารมณ์ให้ผู้รับสารคล้อยตาม ทั้งในตัวสาร และวิธีส่งสาร เช่นใช้ อวจนภาษาในการสร้างอารมรณ์
แนวทางการสร้างสารที่โน้มน้าวใจนี้มีความสอดคล้องกับ หลักการโน้มน้าวใจของอริสโตเติล ดังนี้
1 Ethos อีต๊อด คือ อัตลักษณ์ของผู้พูด จากมุมมองที่ผู้รับสารมองเห็น ประกอบด้วย
มีสติปัญญา (intelligence)
ปราถนาดีต่อผู้ฟัง ( Good will )
มีคุณธรรม ( good character)
2 Logos (หลักตรรกวิทยา) โดยใช้เหตุผล หลักฐาน และข้อเท็จจริง
3 Pathos (อารมณ์ความรู้สึก) สร้างอารมณ์ร่วมให้ผู้ฟัง
ข้อพิจารณาในการใช้สารที่เร้าใจให้มีประสิทธิภาพ(วิธีสร้างสารให้มันเร้าใจ)
- เน้นคุณลักษณะพิเศษของผู้รับสารมากกว่าคุณลักษณะทั่วไปเช่น ต้องการผู้รับสารที่เป็นนักศึกษาที่มีความรับผิดชอบเป็นพิเศษ ก็เลือกนักศึกษารามคำแหง
- สืบหาทัศนคติเดิมของผู้รับสาร ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราจะโน้มน้าวใจ
- การตัดสินใจของบุคคลแตกต่างกันตามสถาพแวดล้อม บางทีพวกมากลากไป ถ้าอยู่ตัวคนเดียวอาจจะไม่สนใจเรื่องนั้นๆ ก็เป็นได้
- ต้องให้ความสำคัญต่อจารีตประเพณี และความเชื่อที่มีอยู่ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ้งถ้าไปขัดกับความเชื่อเดิมอาจทำให้การโน้มน้าวไม่สำเร็จผล
การใช้สารที่เป็นการแนะนำ
- เป็นสารที่ผู้แนะไม่จงใจในเรื่องขาย แต่เป็นการให้ข้อมูล
เช่น เราขาย notebook อยู่ เราจึงให้ความรู้ลูกค้าในเรื่องเรื่องการซื้อ note book แต่ไม่มีการเสนอขายว่า "คุณต้อง/ควรจะ ซื้อกับเรานะ" แบบนี้ผู้รับสารจะมีความรู้สึกที่ดีกับผู้ส่งสารมากกว่า โดยจะไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ หรือกดดันให้ทำตาม
การส่งสารแบบแนะนำ แบ่งเป็นสองแบบ
1
สารแนะนำทางตรง คือการแนะนำแล้วบอกผู้ฟังว่านี่ฉันเป็นคนแนะนำนะ
2
สารแนะนำทางอ้อม การแนะนำผู้ฟังแล้วบอกแหล่งอ้างอิงว่ามาจากแหล่งอื่น โดยเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น
บอกวิธีร้องเพลงที่ถูกต้องให้แก่พี่ชาย แล้วบอกว่าได้ข้อมูลมาจากเสกโลโซ
แล้วเราจะใช้ทางตรงหรือทางอ้อมตอนไหนอย่างไร
1 ถ้าเราเหนือกว่าผู้รับสาร ให้ใช้แบบทางตรง
2 ถ้าเราด้อยกว่าควรจะใช้ทางอ้อม
เหนือกว่า หรือ อ่อนกว่า ใช้ปัจจัยโดยรวม เช่น อายุ ความรู้ในเรื่องนั้นๆ ประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆ
การให้ข้อมูลข่าวสาร ด้านเดียว สองด้าน (ด้านดีอย่างเดียว หรือเสียอย่างเดียว , ด้านดีด้วย เสียด้วย)
เช่น
- ถ้าจะให้คนเลิกสูบบุหรี่ ก็ให้ข่าวสารด้านเดียวที่ไม่ดี ให้เกิดความกลัวต่อการสูบบุหรี่
- ถ้าจะสร้างเขื่อน ต้องโน้มน้าวในด้วยสารทั้งสองด้านเพื่อให้ชาวบ้านที่ต่อต้าน เข้าใจ
- รถยนต์คันแรก ต้องให้ข่าวสารสองด้าน ดีคือถูก แต่เสียคือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
โฆษณาชวนเชื่อไม่ได้ใช้เฉพาะในการโฆษณาสินค้าเท่านั้น แต่ใช้ในการสื่อสาร รนรงค์ โน้มน้าวอื่นๆได้อีก
ตัวอย่างข้อสอบ mcs3104 ให้เปรียบเที่ยบ
โฆษณา กับ การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ ให้เปรียบเที่ยบว่าเหมือนหรือต่างกันตรงไหน
หรือเปรียบเที่ยบ
การโฆษณาชวนเชื่อ กับ การโน้มน้าวใจ ก็ให้ตอบมาว่าตรงไหนเหมือนตรงไหนต่าง
บางครั้งอาจถามถึงยุทธวิธีที่จะใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ ไปดูที่
กลยุทธของการโฆษณาชวนเชื่อ 7 ข้อ
หรือถามว่า
วิธีการที่นำมาใช้ในการโฆษณาสินค้า ดูเรื่อง
หลักการโฆษณา
ยุทธวิธีการโฆษณา
- พ่อค้ามักโฆษณาผ่าน ผู้ทรงคุณวุฒิ
- หลอกล่อผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า
- ทำเป็นให้สิทธิพิเศษ
- ใช้วิธีแสดงการเปรียบเทียบ
- การใช้หลักฐานทางตัวเลข สถิติ
- การใช้ความรวดเร็ว
- การใช้ความกลัว
- การให้รายละเอียด หรือ การแจ้งข้อดีของรายละเอียด
No comments:
Post a Comment